แชร์

เทคนิค การบำรุงรักษารถให้ดีช่วยประหยัดเชื้อเพลิงได้อย่างไร

อัพเดทล่าสุด: 9 ส.ค. 2025

25 ผู้เข้าชม

รถบรรทุกที่ได้รับการดูแลอย่างดีจะเป็นรถบรรทุกที่ประหยัดเชื้อเพลิง ต่อไปนี้คือตัวอย่างบางส่วนในด้านต่างๆ ที่การบำรุงรักษาตามปกติจะทำให้รถของคุณอยู่ในสภาพดีและหลีกเลี่ยงการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงที่เพิ่มขึ้นโดยไม่จำเป็น

เชื้อเพลิงคุณภาพดีไปได้ไกลกว่า

เชื้อเพลิงมีคุณสมบัติแตกต่างกันและอาจส่งผลต่อการประหยัดเชื้อเพลิงของรถบรรทุกและความน่าเชื่อถือของระบบเชื้อเพลิง ปริมาณการใช้เชื้อเพลิงอาจแตกต่างกันมากถึง 5 เปอร์เซ็นต์ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับลักษณะของเชื้อเพลิง นอกจากนี้การใช้เชื้อเพลิงที่มีกำมะถันสูงกว่า 10 ppm ยังทำให้เครื่องยนต์และระบบบำบัดไอเสียเสียหายได้ ด้วยเหตุนี้จึงควรใช้เชื้อเพลิงที่ถูกต้องตามที่ผู้ผลิตกำหนดเสมอ

รักษาตัวกรองอนุภาคให้สะอาดและไม่อุดตัน

รถบรรทุกที่ใช้เครื่องยนต์ Euro 5 ติดตั้งตัวกรองอนุภาคหรือที่เรียกว่าตัวกรองอนุภาคดีเซล (DPF) ซึ่งขจัดเขม่าออกจากก๊าซไอเสียเพื่อให้สอดคล้องกับกฎหมายว่าด้วยการปล่อยก๊าซมลพิษ Euro 5 ฉบับปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม การบำรุงรักษาที่ไม่ถูกต้องอาจทำให้สิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเพิ่มขึ้นถึง 2 เปอร์เซ็นต์ นอกจากนี้ยังอาจทำให้เครื่องยนต์สึกหรอมากขึ้น, ปล่อยก๊าซมลพิษเกินมาตรฐาน Euro 5, ทำให้ตัวกรองเสียหาย และรถเสียโดยไม่คาดคิด

เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหานี้ ให้ใช้เชื้อเพลิงและน้ำมันที่ถูกต้องตามที่ผู้ผลิตกำหนดเสมอ มิฉะนั้น DPF จะเสี่ยงต่อการอุดตันและเสียหาย ควรทำความสะอาดตัวกรองอนุภาคเป็นประจำตามขั้นตอนที่ผู้ผลิตอธิบายไว้

รักษาอุณหภูมิน้ำมันให้เหมาะสม

การที่น้ำมันในกระปุกเกียร์มีอุณหภูมิเหมาะสมจะช่วยลดความต้านทานและส่งผลดีต่อการประหยัดเชื้อเพลิง ที่อุณหภูมิสูงสุด 20°C (และก่อนที่รถจะขับเป็นเวลานานหรือประมาณหนึ่งชั่วโมง) คูลเลอร์น้ำมันจะทำให้น้ำมันร้อนขึ้น ซึ่งช่วยประหยัดเชื้อเพลิงได้ถึง 0.3 เปอร์เซ็นต์ ในสภาพอากาศร้อน คูลเลอร์น้ำมันเกียร์ยังป้องกันไม่ให้น้ำมันร้อนเกินไป ซึ่งจะลดการสึกหรอของชิ้นส่วน

สิ่งสำคัญคือต้องใช้น้ำมันที่แนะนำโดยมีความหนืดและความข้นที่ถูกต้อง ซึ่งจะเป็นผลดีต่อเครื่องยนต์และน้ำมันเพลาด้วย

ระวังอากาศรั่วไหล

เมื่อเกิดการรั่วในระบบเบรกลม การสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงจะเพิ่มขึ้นได้ถึง 2 เปอร์เซ็นต์ ขึ้นอยู่กับขนาดของรอยรั่ว ทั้งนี้เป็นเพราะต้องเปิดคอมเพรสเซอร์ในกรณีที่เกิดการรั่วไหล ซึ่งต้องใช้กำลังเครื่องยนต์ประมาณ 15 แรงม้า อากาศจะรั่วไหลอยู่เสมอในปริมาณหนึ่ง เช่น เมื่อจอดรถบรรทุกค้างคืนหรือในช่วงพักประจำสัปดาห์ แต่เมื่อสูญเสียอากาศปริมาณมากในช่วงพักสั้นๆ แสดงว่ามีการรั่วไหลที่ใหญ่ผิดปกติ ความเสี่ยงที่อากาศจะรั่วไหลที่ข้อต่อเทรลเลอร์นั้นสูงเป็นพิเศษ

ตรวจสอบให้แน่ใจว่าล้ออยู่ในแนวเดียวกัน

เพลาหน้าและเพลาหลังที่ไม่ตรงแนวจะทำให้การบังคับเลี้ยวไม่เสถียรและความต้านทานอากาศเพิ่มขึ้น สำหรับรถหัวลากมาตรฐาน จะสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเพิ่มขึ้นถึง 3 เปอร์เซ็นต์ และจะสูงกว่านี้หากเทรลเลอร์ไม่อยู่ในแนวเดียวกัน หากเพลาเทรลเลอร์ไม่อยู่ในแนวเดียวกันอย่างเหมาะสม จะยิ่งสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงมาก

เติมลมยางให้มีแรงดันถูกต้อง

ยางที่เติมลมต่ำเกินไปจะมีแรงต้านทานการหมุนสูงกว่า ส่งผลให้การสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงเพิ่มขึ้น การทดสอบแสดงให้เห็นว่าแรงดันลมยางที่ต่ำเกินไปเพียง 1 บาร์สามารถเพิ่มการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงได้ถึง 2 เปอร์เซ็นต์ และยังลดอายุการใช้งานของยางได้อีกประมาณ 20 เปอร์เซ็นต์ด้วย

ตัวเลขเปอร์เซ็นต์เล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้ในแต่ละข้อสามารถรวมกันเป็นต้นทุนที่มีนัยสำคัญได้อย่างรวดเร็ว และเมื่อรวมกันแล้วก็สามารถทำให้ผลกำไรก้อนใหญ่หดหายได้ นี่จึงเป็นอีกเหตุผลหนึ่งว่าทำไมการซ่อมบำรุงเป็นประจำจึงเป็นสิ่งจำเป็น

ขอขอบคุณที่มา : https://www.volvotrucks.com/th-th/services/vehicle-service.html

ศูนย์รถบรรทุก UD สาขา ปราจีนบุรี 304 ยินดีให้บริการค่ะ

ศูนย์บริการ เกรียงชัย ทรัค แอนด์ เซอร์วิส จำกัด พร้อมให้บริการลูกค้าทุกท่านอย่างเต็มศักยภาพ

  ศูนย์บริการ ยูดี ทรัคส์ ให้บริการ ในจังหวัดปราจีนบุรี และจังหวัดใกล้เคียง #ยูดีสระแก้ว #ยูดีฉะเชิงเทรา

   ตัวแทนจำหน่ายรถบรรทุก
   งานซ่อมบำรุง
   อะไหล่แท้ยูดี
   ดูแลหลังการขายครบวงจร

ศูนย์บริการ เกรียงชัย ทรัค แอนด์ เซอร์วิส จำกัด

577 หมู่ 8 ต.หนองโพรง อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี 25140

      สนใจ โทร 095-963-5423
      แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/QCxBiQvPxw2QfWTG8
      Fanpage : UD Trucks ปราจีนบุรี 304 : http://bit.ly/4jGCKDu
     TikTok : https://www.tiktok.com/@udtrucksprachinburi304